วันศุกร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2556

คงเหมือนบ้านเราที่อาหารประจำชาติมักจะมีลูกเล่นแปลกๆ
เช่น ส้มตำใส่สตอเบอรี่ หรือ แอปเปิ้ล(อันนี้อร่อย)
นัตโตะเจ้านี้เลยอยากลองทำรสแปลกๆออกมาบ้าง
ซึ่งผมอ่านไม่ออกว่ามันคืออะไร แต่คาดว่าจะเป็นนัตโตะกลิ่นดอกบ๊วย(มั่ว)


เม็ดถั่วเหลืองของยี่ห้อนี้เหนียวได้มาตรฐาน กลิ่นไม่แรงมาก
แพคมาพร้อมกับน้ำจิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ และไม่มีมัสตาร์ดมาให้



หลังจากลองแล้วผมพบว่าผมไม่ชอบกลิ่นของน้ำจิ้มเสียเท่าไหร่
ส่วนหนึ่งก็เพราะคุ้นเคยกับกลิ่นของมัสตาร์ดและโซยุด้วยแหละ
แต่ที่สำคัญคือน้ำจิ้่มมันกลิ่นแรงมาก จนแทบไม่รู้สึกว่ากินนัตโตะเสียเท่าไหร่


ดังนั้น ยี่ห้อนี้ถือว่าเป็นของแปลกสำหรับคนอยากลองอะไรใหม่ๆ
แต่ไม่เหมาะกับการพกติดบ้านไว้กินเสียเท่าไหร่
อคติส่วนบุคคลขออนุญาตให้ 2 ดาวครับ แต่ถ้าคิดจะลองของแปลก ให้ 3 ดาว









วันพุธที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2556

#ทานเมื่อวันที่ 9 /1/ 2013

หลังจากทานนัตโตะมาซักพัก ใจก็อยากเจอนัตโตะซักยี่ห้อ
ที่สามารถพกติดบ้านแล้วสามารถกินด้วยความเอร็ดอร่อยได้ทุกวัน
โชคดีที่วันนี้ได้เจอกับนัตโตะยี่ห้อแรกที่ภูมิใจให้ 5 ดาวได้อย่างเต็มปาก
...แถมถ้าจำไม่ผิด ท๊อปส์ เองก็มีขายในไทยด้วย


น่าเสียดายเหมือนกันที่ผมอ่านชื่อไม่ออก
รู้แต่ว่านัตโตะยี่ห้อนี้เป็นของทาคาโนะฟู้ด
ซึ่งหากใครสนใจสามารถไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
www.takanofoods.co.jp


หน้าตาของเครื่องปรุงไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ
แต่รสชาติของมันถือว่าโดดเด่นมากเมื่อเทียบกับนัตโตะยี่ห้ออื่นๆ
โซยุกลิ่นหอมและเค็มกว่าชาวบ้าน ส่วนมัสตาร์ดก็ฉุนจัดจ้านได้ใจสุดๆ

เม็ดถั่วเหลืองไม่ได้เหนียวทนให้เคี้ยวได้นาน
เหมือนกับจงใจทำมาให้เหมาะกับคนใจร้อนรีบเคี้ยวรีบกลืนยังไงยังงั้น
เส้นใยเหนียวจัด รสชาติเข้มข้น และมีกลิ่นเหม็นแรงเป็นพิเศษ


นัตโตะยี่ห้อนี้ไม่ได้มีลูกเล่นพิเศษใดๆ
เพียงแค่ทำสิ่งพื้นๆของนัตโตะให้โดดเด่นออกมาเท่านั้น
เป็นนัตโตะที่ดีด้วยความเป็นนัตโตะจริงๆ

พูดได้เต็มปากว่าถ้าหากจะต้องซื้อนัตโตะซักยี่ห้อติดบ้านไว้
นัตโตะโลโก้นี้ ยี่ห้อนี้จะเป็นช้อยส์แรกๆ ...น่าจะแรกสุดด้วย ที่ผมจะเลือกซื้อ
อร่อยโดนใจขนาดนี้ ยอมเสียตังค์แน่นอนถ้าเจอ เอาไป 5 ดาวเลยครับ




วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556

#ทานเมื่อวันที่ 6/1/2013

เมื่อเดือนก่อนเล่าเรื่องกิน"นัตโตะ"แล้วชอบ
ให้ไดสุเกะเพื่อนชาวญี่ปุ่นฟัง
พอมาไทยคราวนี้ พี่แกเลยเอานัตโตะมาฝาก
เอามาซะเยอะจนกินแทบไม่ทัน
และแน่นอนเมื่อได้ของแปลกมากินเราก็ต้องเอามารีวิวเสียหน่อย

ห่อออกแบบมาได้สวยมาก ขาวอวบเชียว

นัตโตะชนิดแรกที่ลองคือเจ้านี่ ...นัตโตะหัวไชเท้า?
ตอนแรกก็งงว่าเค้าเอาหัวไชเท้าใส่นัตโตะกันด้วยเรอะ
พอเปิดออกมาก็ถึงบางอ้อ เพราะหัวไชเท้าแยกอยู่ในโชยุ
ไม่ได้ผสมลงในนัตโตะอย่างที่เดาเอาเอง

สภาพเมื่อเปิดฝาโฟม

ตอนเช้าวันอาทิตย์ ...หลังจากไปดูแสงสีเมืองกรุงกันมาจนเกือบเช้า(ฮา)
ผมหิวมากแต่ในห้องไม่มีอะไรกินเลยถามไดสุเกะว่า
"นัตโตะนี่กินด้วยมือเปล่าได้ไหม?"
ไดสุเกะทำหน้าแบบว่า "ไม่มีใครในโลกเค้าทำกันนะเฮ้ย"
แต่ด้วยความหิวเราก็จัดเลย ผสมชง คนด้วยนิ้ว
...ไม่มีภาพประกอบเพราะมือเปื้อนและน่าจะชวนคายของเก่าอย่างรุนแรง

ซูมภาพซองโซยุใส่หัวไชเท้าให้ดูชัดๆ

เวลากินต้องเอาตะเกียบขูดให้หมดแบบนี้

รสชาติของนัตโตะชนิดนี้โดดเด่นเพราะเจ้าโซยุหัวไชเท้านี่ละ
หัวไชเท้าขูดที่ใส่ลงไปมีกลิ่นที่โดดเด่นออกมา
ทำให้กลิ่นของนัตโตะไม่แรงมากและโชยุไม่เค็มปี๋เกินไป
เป็นของแปลกที่น่าลอง ซักครั้งสองครั้ง
เพราะถ้าไม่ได้พิศวาสรสและกลิ่นของหัวไชเท้า
อยากได้รสของนัตโตะเต็มๆ ยี่ห้ออื่นน่าจะโดนใจกว่า

เหนียวยืดได้ใจเลยทีเดียว

เอาไป 4 ดาวสำหรับนัตโตะหัวไชเท้ายี่ห้อนี้
เนื่องด้วยชอบรสและกลิ่นหัวไชเท้าเป็นการส่วนตัว
หากใครไม่ชอบหรือเฉยๆกับหัวไชเท้าก็เอาไป 3 ดาวครึ่งครับ