วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555

28-12-2012

วันที่ 22 ธ.ค.ไปเที่ยวงานรัตนโกสินทร์ 230 ปี
กับเซเลปแมวหมุนส์ @ai_maw ใน Twitter
เลยได้โอกาสแลกเปลี่ยนชากัน
 
ฝั่งนึงชนิดเยอะอีกฝั่งปริมาณเยอะ


ในวันนั้นได้เจอกับร้านกาแฟสตาร์บังชื่อดังที่ดราม่ากับสตาร์บัคด้วย
ซึงก็ไม่รู้ว่าดราม่านี้จะลงเอยอย่างไร แต่รสชาติก็ไม่ได้พิเศษอะไร
รสชาติของร้านนี้ก็เฉกเช่นเดียวกาแฟรถเข็นทั่วไปนั่นและ
อาจใส่เครื่องเพิ่มเติมบ้างเล็กน้อย (วันนั้นได้ลองชาเย็นแค่อย่างเดียว)


ดังไม่แคร์สื่อ ใครจะถ่ายภาพยังไงแกก็ไม่สนใจทั้งนั้น

เข้าเรื่องของวันนี้บ้าง เหตุผลที่ไปแลกชาก็เพราะแมวหมุนส์เค้ามารีวิวชาพม่าในบล้อค
แล้วเราก็อยากลองเพราะชาพม่านี่ไม่เคยลองมาก่อนเลย
(แอบสงสัยว่ามันจะคล้ายชาอินเดียหรือเปล่า)
และวันนี้ก็ได้ฤกษ์ลองเสียที


แมวหมุนส์บอกว่าชาชนิดนี้หาซื้อได้ยากหน่อยเพราะมีขายแต่ที่แม่สอดเท่านั้น
แต่ถ้าของอร่อยนี่ระยะทางไม่ใช่ปัญหา แม่สอดก็แม่สอดเหอะไปไหวอยู่แล้ว(ฮา)
ว่าแล้วก็แกะซองชงเลยดีกว่า


ภาพบนใช้แฟลช ภาพล่างไม่ใช้

แว่บแรกที่ได้กลิ่นก็คิดว่า "เฮ้ย นี่มันชานมพม่าชัดๆ"
แตกต่างจากชานมไทยหน่อยคือกลิ่นชาค่อนข้างเข้มกว่า
เมื่อจิบเข้าไปก็พบว่าเป็นชานมธรรมดานั่นแหละ
เพียงแต่รสชาเด่นชัดกว่ารสครีม กับน้ำตาลพอสมควร
คือได้กลิ่นกับรสชาแต่ไม่ถึงกับฝาดแบบชาจีนนั่นเอง


ภาพบนใช้แฟลช ภาพล่างไม่ใช้

สิ่งหนึ่่งที่แปลกคือหลังฉลากไม่ได้ระบุว่าใช้น้ำตาลหรือครีมเทียมกี่เปอร์เซน
เพราะถ้าเป็นของไทยต้องระบุหมดว่าชาเท่าไหร่ น้ำตาลเท่าไหร่ครีมเท่าไหร่
คาดว่าชาชนิดนี้จะใส่ครีมน้อยกว่าของไทย เช่น ชานมลิปตัน (อันนี้ครีม น้ำตาลอุดมมาก)
จุดเด่นคือได้รสชาแบบเต็มๆกว่าชานมเจ้าอื่นนั่นเอง

กินเสร็จต้องล้าง

สำหรับชาพม่าซองนี้ได้ไป 3/5 ดาว = หอมชาดีแต่คงไม่ถ่อไปถึงแม่สอดเพื่อซื้อ(ฮา) 


วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555


27/12/2012

ชีวิตนี้ไม่เคยกินนัตโตะ(ถั่วหมักของญี่ปุ่น)มาก่อนเลย
จนกระทั่งไปสุพรรณบุรีตอนกลางเดือนแล้วอยู่ห้องว่างๆ
เลยเปิดทีวีแชมเปี้ยนตอนแชมเปี้ยนนัตโตะขึ้นมาดู
เห็นเค้ากินอย่างเอร็ดอร่อยก็เลยอยากลองกับเค้าบ้าง


คลิปต้นเหตุที่ทำให้อยากลองทาน

พูดถึงนัตโตะเซเว่นบ้านเราไม่มีขายแน่นอน
เพราะมันเป็นอาหารที่ค่อนข้างเฉพาะทาง
และมีคนรับประทานไม่มากในไทย
ดังนั้นคิดว่าถ้าจะซื้อก็ต้องไปที่ Tops Market
(ที่สุพรรณบุรีมีที่โรบินสัน)
พอไปถึงก็ไม่ผิดหวัง มีขายจริงๆ
ราคาราวๆหนึ่งร้อยบาทหนึ่งห่อมี 3 แพค


สลากด้านหน้าและด้านหลัง

ห่อแรกผมเปิดกินที่สุพรรณบุรี
คุณภาพของนัตโตะนี่สมคำเล่าลือจริงๆว่า
"ถ้าคนกินไม่เป็นจะเกลียดมากๆ"
ผมคลุกข้าวสวยกินแล้วผลที่ได้คือ
แค่ 6 คำเท่านั้น ต้องเททิ้งทั้งข้าวทั้งนัตโตะในจานลงถังขยะ
...อยากบอกว่าแหวะมากๆ

สภาพไม่ได้ดูน่ากินเล้ยยยยย

หลังจากนั้นผมก็ทิ้งอีก 2 ห่อที่เหลือไว้ในตู้เย็น
จนกระทั่งวันกลับบ้านก็คิดอยู่ว่าจะทิ้งให้หมดเลย
หรือจะเอากลับบ้านด้วยดี
แน่นอน ด้วยความงกเลยขนกลับบ้านไป
ทั้งๆที่ไม่แน่ใจว่าจะได้กินอีกหรือไม่

แต่แล้วเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องท้าทายถั่วนรกก็มาไวกว่าที่คิด
แม่หุงข้าวไว้เต็มหม้อแต่ไม่มีกับข้าว!!
เอาไงดี หิวก็หิว จะออกไปก็ขี้เกียจ
เลยตัดสินใจ เอาก็เอาวะ ซัดนัตโตะนี่ละ

  
เตรียมการกันก่อน
อันดับแรกในการกินนัตโตะ
เราต้องเอาใส่เครื่องให้เรียบร้อย
แล้วคนประมาณ 25-40 ครั้ง(ตามคลิปทีวีแชมเปี้ยน)


คนกินไม่เป็นเห็นเข้าอาจแหวะได้

คนให้เหนียว ข้นเป็นที่พอใจแล้วก็เอามาราดข้าวสวยร้อนๆ

ช่วงเวลาวัดใจ

หลังจากกินคำแรกเข้าไป สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น
เหมือนกับว่าร่างกายมันจดจำแล้วว่าไอ้ของสิ่งนี้กินได้
การกินนัตโตะในครั้งนี้ แทนที่จะอยากคายทิ้งเหมือนครั้งแรก
กลับกลายเป็นว่ารู้สึกถึงรสชาติที่เค็มๆมันของมัน
และกลิ่นของถั่วหมักที่เคยเหม็นกลับกลายเป็นหอมชวนให้ทานข้าวไปซะได้!!

ผมเริ่มพุ้ยข้าวเข้าปากอย่างต่อเนื่อง
พอข้าวเยอะไปก็คีบนัตโตะเพิ่ม
ความเค็ม มัน เหม็นของนัตโตะ เข้ากับข้าวสวยร้อนๆได้เป็นอย่างดี
และผลที่เกิดหลังจากนั้น 5 นาทีก็คือ...

หมดเกลี้ยง

สรุปว่าฮอกไกโดนัตโตะยี่ห้อนี้รสชาติไม่เลว
ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับอีกยีห้อที่ได้กินในภายหลังแล้วพบว่า
นัตโตะ ยี่ห้อนี้ รสชาติดีเกินมาตรฐาน
ดังนั้นคะแนนที่ได้คือ 4/5 ดาว = อร่อยแบบนี้น่าซื้อมาติดบ้านไว้
...แต่ใครเกลียดถั่วเหลืองหมักอย่าเสี่ยงกินเชียวเดี๋ยวจะเหลือ 0/5 ดาว(ฮา)

งวดหน้ามีเรื่องน้ำชามานำเสนอ ...จะได้มีอะไรล้างคอบ้าง
ขืนเขียนเรืองนัตโตะติดๆกันเดี๋ยวบล๊อคนี้จะกลายเป็นบล๊อคนัตโตะไป
สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ  :D